Admin Button
อีเมล์/เลขบัตรประชาชน :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
ข่าวประชาสัมพันธ์
จังหวัดตรังเลือกผ้าทอนาหมื่นศรี ลาย “แก้วชิงดวง” เป็นลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด
21 มกราคม 2565

 ผ้าไทย คือ ผ้าทอมือที่มีการผลิตในประเทศไทย โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่น กระทรวงวัฒนธรรมจะดำเนินการจัดทำหนังสือ “ภูษาศิลป์ จากท้องถิ่น สู่สากล” เนื่องในโอกาสพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2565 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงพระวิริยะอุสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการส่งเสริมเรื่อง “ผ้าไทย” และสิ่งทอท้องถิ่นที่เกือบสูญหายไปให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง พร้อมยกระดับผ้าไทยให้มีความโดดเด่นและมีชื่อเสียงในเวทีโลก เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น  นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จังหวัดตรังได้นำลายผ้ามาคัดเลือกเพื่อเป็นลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดตรังจากจำนวน 7 ลาย ได้แก่ ลายลูกแก้ว ลายลูกแก้วฝูง ลายเม็ดแตง ลายราชวัตร ลายดอกกก ลายแก้วชิงดวง และ ลายดาวล้อมเดือน ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกผ้าทอนาหมื่นศรี ลาย “แก้วชิงดวง” เป็นลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด   สำหรับลายผ้า “แก้วชิงดวง” เป็นลายผ้าท้องถิ่นของผ้าทอนาหมื่นศรี ซึ่งเป็นผ้าทอพื้นเมืองของจังหวัดตรัง การทอผ้าที่บ้านนาหมื่นศรีมีประวัติยาวนาน จากเอกสารจดหมายเหตุ พระราชกิจรายวัน วันที่ 29 มิถุนายน 2458 กล่าวถึงในสมัยที่รัชกาลที่ 6 เสด็จจังหวัดตรังว่า “สมุหเทศาภิบาลมณฑล ได้ทรงจัดผ้าพรรณทุกอย่างซึ่งเป็นของทำในพื้นบ้าน เช่น ผ้ายก ผ้าราชวัตร ผ้าตาสมุก ผ้าคาด ผ้าเช็ดหน้า ถวายประทานแจกแก่ข้าราชการตามสมควร” และได้ปรากฏหลักฐานจากจดหมายเหตุว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ร.ศ.128 ได้ทอดพระเนตรผ้าทอที่เมืองตรัง ข้อความตอนหนึ่งว่า “ใต้ถุนเรือนใช้เป็นที่หัดทอผ้ามีผู้หญิงมาหัดทอมาก” ย่อมแสดงว่าผ้าทอเมืองตรังมีมาก รวมทั้งในชุมชนนาหมื่นศรีด้วย  ในจดหมายเหตุเดียวกันนี้ยังกล่าวถึงการใช้เงินของชาวเมือง ในวันที่ 13 พฤษภาคม ร.ศ.128 โดยยกตัวอย่างการขายผ้าว่า “เวลาบ่ายมีผู้หญิงนำผ้าขึ้นมาขายที่พลับพลา ได้ซื้อไว้ได้คนละหลาย ๆ ผืน ก็พอจะใช้นุ่งได้ ผ้าเช็ดปาก มักขายผืนละ 20 อัฐ ผ้าคาดผืนละ 70 อัฐ” ทั้งยังกล่าวถึงการแต่งกายของชาวตรังไว้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ร.ศ.128 ว่า “ราษฎรที่มาดูโดยมากสวมทั้งชายหญิง ผมทราบว่าเป็นธรรมเนียมพวกผู้หญิงที่เมืองนี้ถ้าไปตลาดต้องสวมเสื้อ โรงเย็บจักรที่นี่มีอยู่ตั้งยี่สิบโรง ซึ่งเป็นพยานอยู่ว่าคนตรังพอใจสวมเสื้ออยู่โดยมาก”  การทอผ้าของบ้านนาหมื่นศรีได้ขาดหายไปช่วงหนึ่งในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองและฟื้นคืนมาอีกครั้งเมื่อราว พ.ศ.2514 โดยยายนาง ช่วยรอด ยายผอม ขุนทอง ยายอิน เชยชื่นจิตร และยายเฉิ่ม ชูบัว ช่วยกันซ่อมแซมกี่ กับเครื่องมือเก่า ๆ ให้ใช้การได้แล้วลงมือทอผ้าด้วยความตั้งใจว่าจะให้ลูกหลานได้รู้จักผ้าทอและวิธีทอผ้าแบบดั้งเดิม ต่อมา นางกุศล นิลลออ บุตรสาวของยายนาง เป็นผู้รับช่วงกิจกรรมงานทอผ้า และสืบทอดต่อกันมาจนรุ่นปัจจุบัน  ลายผ้ามีลักษณะเหมือนเงินจีน หากมีไว้ครอบครองจะมั่งมี ศรีสุข

×
1 / 3
2 / 3
3 / 3