Admin Button
อีเมล์/เลขบัตรประชาชน :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
ข่าวประชาสัมพันธ์
ยุติธรรม ลุยแก้ปัญหาหนี้ ภายใต้ “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ปีที่ 2 จังหวัดตรัง
1 พฤษภาคม 2568

วันนี้ (1 พ.ค. 68) ที่ห้องประชุมปัญญาอนุสรณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง จังหวัดตรัง นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ปีที่ 2 จังหวัดตรัง โดยมี นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สถาบันทางการเงิน สื่อมวลชน และประชาชน เข้าร่วมงาน

จากสถานการณ์ ภาวะหนี้ของประเทศไทย กระทรวงยุติธรรม ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามมาตรการแก้ไข ปัญหาหนี้สิน ภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัดต่อวินัยทางการเงิน และไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม (Moral Hazard) ของผู้มีภาระหนี้สิน โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อีกทั้งต้องเกิดจากความสมัครใจ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย สร้างการตระหนักรู้ และเข้าใจ เพื่อเลือกใช้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ใน การยุติข้อพิพาททางแพ่ง และข้อพิพาททางอาญาตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทพ.ศ. 2562 ประกอบด้วย การไกล่เกลี่ยหนี้สินก่อนฟ้อง ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 และหลังศาล มีคำพิพากษา ตามระเบียบกรมบังคับคดี ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2558 เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้ ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อ ลิสซิ่ง ที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์ฟ้อง หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา เข้าถึง กระบวนการยุติธรรมด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทาง การเงินให้แก่ประชาชน เป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนต่อไป

สำหรับการจัดงานในจังหวัดตรัง ในครั้งนี้ กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 1-2 พฤษภาคม 2568 จำนวน ๒ วัน ซึ่งกระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดตรัง สำนักงานบังคับคดีจังหวัดตรัง ร่วมบูรณาการ กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ได้เชิญชวนลูกหนี้เข้าร่วมงานทั้ง 2 วัน จำนวนกว่า 3,617 ราย ทุนทรัพย์รวม 211 ล้านบาท โดยสถาบันการเงิน และธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วม จัดการไกล่เกลี่ย และปรับโครงสร้างหนี้ มีดังนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพ พาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำกัด, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารออมสิน, บริษัทบริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด, บริษัทบริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด, บริษัทเจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิชเซ็ส จำกัด (มหาชน), กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชน, สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร, กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกองทุนผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ

โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์ ในกรณีก่อนฟ้องคือการผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือนงดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของชั้นบังคับคดี หรือหลังคำพิพากษา ประโยชน์ที่จะได้รับคือการขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาด ลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดี และยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย

×
1 / 10
2 / 10
3 / 10
4 / 10
5 / 10
6 / 10
7 / 10
8 / 10
9 / 10
10 / 10